เชื่อว่าคงมีคนจำนวนไม่น้อย ที่มีปัญหา มีเรื่องไม่พอใจในที่ทำงาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องส่วนรวมที่จะต้องทำงานร่วมกับผู้อื่น สิ่งสำคัญที่ส่งผลให้เกิดความพอใจหรือความไม่พอใจก็คือ ทัศนคติ ถ้าเรามีทัศนคติที่ดีต่องานและที่ทำงาน ก็จะทำให้เราทำงานได้อย่างมีความสุข แต่ถ้าเรามีทัศนคติที่แย่ก็จะส่งผลร้ายต่อสภาพจิตใจของเรา วันนี้ดิฉันมี ทริคเล็ก ๆ 18 ข้อ ให้ลองเอาไปปฏิบัติกันดูค่ะ
1. หาแรงบันดาลใจระหว่างการเดินทาง
ส่วนใหญ่เราจะใช้เวลาในการเดินทางไม่ว่าจะมุดดินหรือลอยฟ้าไปจมปลักกับโซเชียลเน็ตเวิร์กเสียเป็นส่วนใหญ่ ลองเปลี่ยนมาฟัง Podcast หรือ Audio Book หรือฟังเพลงที่ทำให้สร้างแรงบันดาลใจดูดีไหมคะ แต่ถ้าจะให้ดิฉันแนะนำ podcast อาจจะเป็นเรื่องไกลตัวไปสำหรับคนไทย ลองหยิบหนังสือมาอ่านระหว่างทางจะดีกว่าค่ะ อาจจะเป็นหนังสืออ่านเล่น หรือแนวการสร้างแรงบันดาลใจก็ได้
2. ถึงที่ทำงานก่อนเวลาทำงาน
การมาก่อนเวลาทำให้เราสามารถโฟกัสว่าจะมีสิ่งใดต้องทำบ้างในวันนี้ สามารถจัดความสำคัญของงานได้ แถมยังเงียบด้วยนะคะเพราะคนอื่นเขายังไม่มากัน
3. เช็คอีเมลล์
หลายคนเลือกเช็คเมลล์เป็นกิจกรรมแรกหลังจากเปิดคอมพิวเตอร์ หรือจ้องจะเช็คเมลล์ตลอดเวลาที่ทำงานอยู่ ลองเปลี่ยนเวลาการเช็คเมลล์ด้วยการกำหนดเวลาเป็นช่วง ๆ เช่น จะเช็คทุก 10 โมง และ 4 โมงเย็น เป็นต้น (วิธีนี้แนะนำเหมือนในหนังสือทำน้อยให้ได้มาก The Power of Less)
4. เวลาที่ใช้ไปในการทำงาน
ลองคิดดูว่าคุณทำงานบางอย่างโดยเสียเวลาไปแทบทั้งวันหรือเปล่า? แล้วงานที่ทำไปนั้นสำคัญขนาดไหน ลองหันมาโฟกัสงานที่สำคัญที่สุดเป็นอันดับแรกดูค่ะ เมื่อเสร็จแล้วจึงค่อยดูอันถัด ๆ ไป
5. วางแผนการทำงาน
ลองวางแผนว่าในวันนี้คุณจะทำอะไรบ้าง มี Objective อะไรบ้างที่ต้องทำ หรือจะวางเป็นรายสัปดาห์ก็ได้เช่นกันค่ะ เพื่อให้เห็นภาพรวมในการทำงานทั้งหมด
6. หาเวลาพักบ้าง
กำหนดช่วงเวลาในการเบรค หยุดพักการทำงานของคุณเป็นช่วงเวลา เพราะคนเราคงไม่สามารถจดจ่อได้รวดเดียว 4 ชั่วโมง 8 ชั่วโมงแน่นอนค่ะ การพักทำให้เราอาจจะได้ไอเดียอะไรใหม่ ๆ หรือเป็นการทบทวนสิ่งที่เราทำอยู่
7. การประชุม
ดำเนินการประชุมให้อยู่ในหัวข้อ และสนใจที่จะเข้าร่วมฟังหรือออกความเห็น ทั้งนี้ก็เพื่อให้เมื่อออกจากห้องประชุมแล้วเราจะได้เข้าใจอย่างชัดเจนว่าเราต้องทำอะไรและมีเป้าหมายในการทำเป็นอย่างไร
8. ออกกำลังกาย
หาเวลาในการออกกำลังกายบ้างนะคะ การออกกำลังนอกจากจะช่วยลดความเครียดแล้ว ยังจะช่วยให้คุณสามารถทำงานได้ดีขึ้นด้วยสมองที่ปลอดโปร่ง การพักผ่อนให้เพียงพอก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกันนะคะ
9. ความรอบคอบ
ความเร็วในการทำงานเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ แต่เมื่อเร็วแล้วก็ต้องแลกกับอัตราความเสี่ยงในการเกิดข้อผิดพลาด ลองลดความเร็วแล้วตรวจทานให้ดี ก่อนเพื่อที่จะไม่ต้องกลับมาทำใหม่อีกรอบค่ะ
10. การสนับสนุน
ดูว่าสิ่งที่คุณทำไปสำเร็จมีอะไรบ้าง แล้วแชร์ให้คนอื่นได้รับรู้ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่น ๆ รวมทั้งสนับสนุนงานของเพื่อนร่วมงานของคนอื่น ๆ ด้วย
11. การร่วมกันทำงาน
อย่ากลัวที่จะขอความช่วยเหลือ ลองให้คนอื่น ๆ หรือถามไอเดียจากคนอื่น ๆ ดู หากคุณไม่สามารถคิดงานหรือทำงานต่อไปได้ (แต่ก็อย่าขอกันบ่อยจนพร่ำเพรือนะคะ)
12. เข้าใจและยอมรับ
หากมีเรื่องบางเรื่องที่เป็นข้อผิดพลาดหรือปัญหา ซึ่งสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อสุขภาพจิตที่ดีของคุณแล้วก็ควรทำใจแล้วทำต่อไปให้ดีที่สุดค่ะ (และอย่าลืมหาโอกาสที่ดีกว่าให้ตัวเองด้วย)
13. วันหยุดใช้ชีวิตให้สุด ๆ ไปเลย!
วันหยุดหลาย ๆ คนเลือกจะไปเดินห้างบ้าง อ่านหนังสือบ้าง ลองหาอะไรทำใหม่ ๆ ดูนะคะ แบบไม่ซ้ำกัน เช่น ลองออกไปต่างจังหวัด ไปปีนเขา ออกกำลังกายที่ไม่ใช่ในฟิตเนส หรืออาจเปลี่ยนที่อ่านหนังสือพร้อมจิบกาแฟ
14. คิดบวก
อาจฟังดูโลกสวยไปสักนิด แต่การมีอารมณ์คิดบวกนั้น จะมีผลกับงานที่คุณทำ รวมถึงเพื่อนร่วมงานที่จะได้ประจุบวกจากการทำงานที่มีสิ่งแวดล้อมที่เป็นบวกไปด้วย
15. เห็นอกเห็นใจ
แม้เราจะพยายามคิดบวกแล้ว แต่ก็ต้องมีเพื่อนร่วมงานบางคนที่ยังคงติดอยู่กับความคิดไม่ว่าจะเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัวในแง่ลบอยู่ แต่จะเพิกเฉยไปเลยก็เหมือนเป็นการปล่อยลอยแพ ดังนั้น สิ่งที่คุณน่าจะพอทำได้ก็คือลองยื่นมือให้ความช่วยเหลือด้วยการช่วยปรับเปลี่ยนมุมมองให้เป็นด้านบวก ลองชี้แจงด้วยเหตุและผล ซึ่งถ้าเขาเปิดใจรับฟังน่าจะเป็นประโยชน์อย่างมากค่ะ
16. การเมืองในที่ทำงาน
มันเป็นเรื่องเหนือการควบคุมของเรา ซึ่งการมีเรื่องนี้แน่นอนว่าจะทำให้งานและธุรกิจไม่มีความก้าวหน้าถ้ามัวจมปลักกับเรื่องนี้ สำหรับในส่วนของงานของคุณแล้ว หันมาโฟกัสกับสิ่งที่ทำเพื่อให้งานก้าวหน้าและหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง ดีกว่าค่ะ
17. การติชม
คนเราย่อมชอบการชม มากกว่าคำตำหนิติเตียนใช่ไหมคะ บางครั้งเราก็ต้อง (พยายาม) เข้าใจในคำเตือนนั้นแม้มันจะไม่น่าฟังก็ตาม ดังนั้นคุณก็ควรพิจารณาเลือกฟังคำติเตียนที่สามารถจะเอาไปใช้ในการปรับปรุงงานของคุณให้ดีขึ้นได้ นอกนั้นก็คงต้องปล่อยวางมันเถอะค่ะ
18. การปรับตัว
ไม่มีสิ่งไหนที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ธุรกิจ, การงานก็เช่นกัน เราคงไม่อาจไปเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้ แต่เราสามารถเลือกที่จะปรับตัวให้กับสภาพและสภาวการณ์ในปัจจุบันให้ได้ หากว่าคุณอยู่ในระดับบริหาร ลองใช้ประสบการณ์และความเข้าใจในความเปลี่ยนแปลงของคุณเป็นตัวบอกว่า คุณควรต้องทำอย่างไร มากกว่าจะเป็นจะเป็นคนหัวโบราณที่รอต่อต้านเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีการปรับตัวให้เข้ากับกระแสที่เปลี่ยนไปเลย
ที่มา CMD
ภาพจาก http:// hd.unsplash.com/
Admin : Gossy