เมื่อไรที่เราต้องเผชิญกับปัญหาในการทำงาน มีคนเคยบอกให้เราคิดบวก แล้วอะไร ๆ จะดีขึ้นเอง การคิดบวกไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่เรื่องงานเท่านั้น แต่วิธีนี้สามารถนำไปใช้ได้กับทุกที่ ทุกเรื่อง แม้แต่ในวันแย่ ๆ ที่อาจทำให้ท้อแท้ เพราะว่าทัศนคตินี่เองที่เป็นตัวกำหนดผลงานของเราในแต่ละวัน วันไหนเราสบายใจ เราก็ทำงานออกมาได้ดีมีความคิดสร้างสรรค์ แต่ถ้าวันไหนเราเคร่งเครียด เหนื่อยล้า ก็จะสะท้อนออกมาทางผลงานของเราเช่นเดียวกัน เหมือนทำงานให้ผ่านไปวัน ๆ เท่านั้นเอง แล้วเราจะยอมให้วันแย่ ๆ มีอิทธิพลกับเราถึงเพียงนั้นหรือ ถ้าเราทำงานด้วยอารมณ์ขุ่นมัว แน่นอนว่าเราจะไม่สามารถทำงานให้ดีได้ ซ้ำร้ายจะยิ่งแย่ลงไปกว่าเดิมเสียอีก เรามาหาวิธีเปลี่ยนความคิดกัน เปลี่ยนทัศนคติ เปลี่ยนโลกสีเทา ๆ ในวันแย่ ๆ ให้มีสีสัน กระตุ้นความสดใสในวันทำงานให้กลับคืนมาอีกครั้งกันเถอะค่ะ
1. ทำใจให้เป็นสุข
เราจะสุขหรือทุกข์นั้นอยู่ที่ความคิดของเราเป็นตัวกำหนด ถ้าเราตื่นเช้าขึ้นมาและบอกกับตัวเองในทุก ๆ เช้าว่า วันนี้เป็นวันดี ๆ อีกวันหนึ่ง ขอบคุณที่เรายังหายใจ ขอบคุณที่เรายังเดินได้ และยังมีแรงทำงาน ลุกจากที่นอนแล้วบอกตัวเราในกระจกว่า วันนี้จะเป็นวันที่ดี วันที่สดใสของเรา บอกกับ ตัวเองอย่างนี้ทั้งวัน จนเราเชื่อว่ามันเป็นอย่างนั้นจริง และให้มันเป็นไปโดยอัตโนมัติ ความสุขจะเกิดขึ้นที่ใจของเราเอง ซึ่งทำให้เราทำงานด้วยความสุขตลอด ทั้งวัน แม้ว่าจะเจออุปสรรคปัญหานานาประการ แต่เราจะผ่านพ้นไปได้ด้วยทัศนคติดี ๆ ที่เรามี ช่วยเปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดีด้วยตัวของเรา และใจของเราเอง
2. เติมเสียงหัวเราะในทุกสถานการณ์
ถึงแม้บางคราวเรารู้สึกว่ายากเหลือเกินที่จะทำใจให้สนุก นั่นเป็นเพราะเราเคร่งเครียดและจริงจังมากเกินไป ถึงเวลาแล้วที่เราต้องปลดปล่อยมันออกมา ยารักษาความเครียดที่ดีที่สุดคือเสียงหัวเราะ การมองเรื่องแย่ ๆ ในแง่บวก ยิ้มและหัวเราะให้กับเรื่องที่เราเจอ แทนที่จะปล่อยให้ตัวเองติดอยู่กับความทุกข์ จะช่วยให้เราผ่อนคลาย และรู้สึกดีขึ้น
3. ใช้เวลากับสิ่งที่ก่อให้เกิดประโยชน์
การยึดติดกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องที่เปล่าประโยชน์มาก ๆ ก่อนอื่นเราต้องยอมรับว่า สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วเราตามไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีก เปลี่ยนความหม่นหมองเป็นพลังผลักดันในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ให้เกิดประโยชน์จะดีกว่า ไม่เพียงแต่เราจะสามารถลดความวิตกกังวลได้แล้ว ยังช่วยให้เรารู้สึกดีกับความสำเร็จในครั้งใหม่อีกด้วย
4. หยุดพักความคิด
ถ้าเรารู้สึกว่า เราชักจะจมอยู่กับความผิดหวังความท้อแท้ ดิ่งลึกลงไปทุกทีแล้วล่ะก็ ควรจะหยุดพักความคิดสัก 10 นาที หรือ 1 ชั่วโมง แล้วหันไปทำอย่างอื่นเพื่อดึงตัวเองให้หลุดออกจากปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้เราเกิดทัศนคติทางลบ เมื่อเราถอยออกมาจากเหตุการณ์นั้น ถอยออกมาเพื่อมองย้อนกลับเข้าไปใหม่ เราอาจเห็นทางออกของปัญหาที่รุมเร้าก็เป็นได้
5. เตือนตัวเองด้วยข้อความให้กำลังใจ
บนโต๊ะทำงานนอกจากเอกสารกองโตแล้ว อาจจะหากระปุกลูกอมบรรจุกระดาษม้วน ๆ ข้างในเป็นข้อความแทนความ รู้สึกดี ๆ จากครอบครัว จากเพื่อน หรืออาจเป็นข้อความจากที่อื่นที่เราประทับมาใส่ไว้ เมื่อไรก็ตามที่เรารู้สึกท้อแท้กับวันแย่ ๆ ให้หยิบข้อความขึ้นมาอ่าน ความรู้สึกดี ๆ จะถูกดูดซึมผ่านเข้าสู่จิตใจของเรา และทำให้เรามีรอยยิ้ม และมีกำลังใจขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
จำไว้อย่างหนึ่งว่าไม่มีใคร สามารถกำหนดทัศนคติของเราได้ ตัวเราเท่านั้นที่จะเป็นคนทำให้ทุกอย่างดีขึ้นหรือแย่ลง ดังนั้นคิดบวกเอาไว้ดีกว่า เมื่อไรก็ตามที่เรารู้สึกแย่ ลองเปลี่ยนวิธีคิดแล้วชีวิตจะดีขึ้นเอง
ที่มา th.jobsdb.com
ภาพจาก www.afs.org
Admin : Gossy