นี่คือสัญญาณ...ที่บอกว่าคุณกำลังเครียด

นี่คือสัญญาณ ที่บอกว่าคุณกำลังเครียด.jpg

นี่คือสัญญาณ...ที่บอกว่าคุณกำลังเครียด

 

ความเครียดเป็นสิ่งที่ทุกคนรู้จักและเคยชินเป็นอย่างดี มันคือภัยร้ายที่คนส่วนใหญ่ไม่เคยตระหนักถึง บางคนก็บอกว่า “ความเครียดเป็นเรื่องปกติที่ใคร ๆ ก็มี ไม่มีสิแปลก” ใช่ค่ะ ทุกคนรู้จักความเครียดกันเป็นอย่างดี แต่ไม่ใช่ทุกคนนะคะ ที่จะรู้ว่า เครียดแค่ไหน จึงจะไม่เรียกว่า ”มากเกินไป” ไม่มากเกินไปจนคุณลืมรอยยิ้มของตัวเอง ไม่มากเกินไปจนเป็นโรคเครียดหรือซึมเศร้า และไม่มากเกินไปจนเส้นเลือดในสมองแตกหรือนำไปสู่ความตาย และนี่คือ 5 สัญญาณที่จะทำให้คุณรู้ว่าคุณกำลังเครียด...อยู่หรือเปล่า

 

1. คุณรู้สึกว่าคุณเริ่มมองโลกในแง่ร้าย

          ลองเช็คตัวเองดูว่าคุณเริ่มมองหลาย ๆ อย่างในด้านลบไปเสียหมดหรือเปล่า เช่น คิดว่าคนโน้น คนนี้ คนนั้น ใคร ๆ ก็เอาเปรียบคุณอยู่ตลอดเวลา มีคนหยิบยื่นความช่วยเหลือมาให้ก็มองแต่ว่าเขาต้องการบางสิ่งบางอย่างจากคุณ หัวหน้าจ่ายงานให้แต่คนอื่นที่ไม่ใช่คุณทำ ก็โทษตัวเองว่าขาดประสิทธิภาพ เพื่อนร่วมงานนำเสนอไอเดียผ่านก็คิดว่าเพราะเขาเป็นคนโปรดของเจ้านายถึงผ่าน แบบนี้แสดงว่าคุณกำลังถูกความเครียดจากการทำงานเล่นง่ายเรียบร้อยแล้วค่ะ ฉะนั้นลองดึงตัวเองกลับมาตั้งสติ เบี่ยงความคิดของตัวเองให้มองด้านบวกดูบ้าง ความเครียดจะได้เจือจางลง แล้วคุณจะมีความสุขกับงานมากขึ้น

 

2. คุณเริ่มบ่นเรื่องในที่ทำงานลง Facebook

         ประเภทตั้ง status กระแหนะกระแหนเพื่อนร่วมงาน ตัดพ้อตัวเองเพื่อหวังจะเรียกร้องความสนใจจากเพื่อนร่วมงานหากเขาได้อ่าน ด่าหัวหน้าออกสื่อ บ่นว่างานหนักเหลือเกินฉันทนทำอะไรอยู่ แบบนี้มั่นใจได้เลยว่าคุณกำลังเครียดเรื่องงานจนพาลไม่ไว้ใจ ไม่เชื่อใจใครเลยในออฟฟิศ ปล่อยวางเสียบ้างไม่อย่างนั้นความเครียดเรื้อรังจะถามหาโดยไม่รู้ตัว

 

3. หงุดหงิดใส่คนรอบข้าง

          ถ้าคุณไม่เข้าข้างตัวเองจนเกินไป ลองถามตัวเองดูว่าเรามักจะหงุดหงิดใส่คนรอบข้างอย่างไม่มีสาเหตุหรือไม่ แต่ถ้าคุณไม่แน่ใจ ก็ลองสังเกตเพื่อนรอบข้างดูว่า ช่วงนี้พวกเขาทำตัวห่างเหินเฉยชากับคุณอยู่รึเปล่า เพราะบางครั้งเราหงุดหงิด แสดงอารมณ์ไม่น่ารักใส่ใครโดยไม่รู้ตัวก็อาจจะทำให้เพื่อนร่วมงานไม่ค่อยอยากจะเสวนาด้วยก็เป็นได้ ดังนั้น หมั่นเช็คหน่อย อย่าปล่อยให้อาการเครียดจากงานพาลให้เราเสียเพื่อนร่วมงานดี ๆ ไป

 

4. รู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา

          เคยไหมทำงานหนักแต่พักเท่าไหร่ก็ไม่หายเหนื่อย บอกเลยว่าที่คุณเป็นแบบนี้ก็เพราะว่าที่คุณเหนื่อยมันใม่ใช่แค่เรื่องของร่างกาย แต่มันเป็นเรื่องของความเหนื่อยใจ เพราะบางทีคุณไม่สามารถปล่อยวางงานที่เครียด ๆ ออกจากใจได้ คุณแบกมันกลับมาคิดต่อที่บ้าน คิดในเวลาพักผ่อน คิดจนเข้านอน ทำให้คุณนอนหลับไม่สนิท ตื่นมาคุณก็จะรู้สึกยังคงเมื่อยล้า พาลไม่อยากให้คุณลุกออกไปหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ดิฉันแนะนำให้คุณพยายามปล่อยความเครียดที่มีไป หาอะไรที่ทำให้คุณรู้สึกสดชื่น หัวใจพองโตทำบ้าง บางครั้งมันอาจจะทำให้คุณเห็นว่า สิ่งที่คุณเครียดอยู่อาจจะเป็นเรื่องเล็กน้อยจนไม่มีค่าให้คุณใส่ใจก็เป็นได้นะคะ

 

5. วิตกกังวลกับทุกเรื่อง

          ลองนึกย้อนดูว่าคุณมักจะวิตกกังวลอยู่บ่อย ๆ แม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือไม่ กลัวทำงานนี้ไม่ได้ กลัวขายงานนี้ไม่ผ่าน ไม่ไว้ใจและไม่เชื่อมั่นในคนอื่น กลัวเขาจะทำได้ไม่ดีเท่าเรา กลัวเขาจะทิ้งงาน กลัวไปเสียหมด ทั้ง ๆ ที่งานบางอย่างยังไม่ทันจะได้เริ่มทำเสียด้วยซ้ำ ถ้าเป็นแบบนี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่าคุณกำลังเครียดเกินไป ลองทำใจให้สบาย ๆ ทำทุกอย่างด้วยความผ่อนคลาย เข้าใจว่างานบางอย่างเป็นงานใหญ่ งานสำคัญอาจจะเป็นเรื่องยากที่คุณจะไม่กังวล แต่บางครั้งการกังวลที่มากเกินไป ก็พาลให้เพื่อนร่วมงานรับรู้ได้ถึงความเครียด ความกดดัน จากที่ทุกคนจะทำงานสบาย ๆ ปล่อยไอเดียกันอย่างเต็มที่ ก็กลายเป็นวิตกกันไปทั้งทีม แบบนี้จะกลายเป็นยิ่งแย่แน่นอน

 

 ลองเช็คตัวเองดูนะคะ ว่าคุณกำลังเป็นแบบใน 5 ข้อนี้อยู่หรือไม่ ถ้าใช่ รีบกำจัดมันออกไปให้เร็วที่สุดค่ะ เพราะถ้าคุณเผลอปล่อยทิ้งมันเอาไว้ในใจ นานวันไปมันก็จะเปลี่ยนจากภัยร้ายเป็นมัจจุราชที่พรากชีวิตและความสุขของคุณไปโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยต่อร่างกายและจิตใจของคุณ มองทุกสัญญาณความเครียดในใจของคุณให้ดีค่ะ หาความเครียดให้เจอ แล้วเขี่ยมันออกไปให้ไวที่สุด... และถ้าคุณยังไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน ลองเริ่มต้นด้วยการยิ้มให้ตัวเองและคนรอบข้างทุกเช้า เริ่มต้นทุกวันด้วยรอยยิ้ม ดิฉันเชื่อมั่นว่า วันนั้นของคุณจะเป็นวันที่ดีกว่าเดิมแน่นอนค่ะ

 

ที่มา : jobsdb.com

รูปภาพ : univision.com

Admin : Gossy